ความแตกต่างของสองเมืองที่แฝงไปด้วยเอกลักษณ์ที่โดดเด่น และเต็มไปด้วยเสน่ห์อันทรงพลัง สะท้อนให้เห็นหัวใจเดียวกันซึ่งเป็นเสมือนดีเอ็นเอของแบรนด์ DKNY มหานครนิวยอร์ก คือเมทองที่มีความฝัยเต็มไปด้วยพลังอันไมมีสิ้นสุด ถ่ายทอดให้เห็นมุมการมองชีวิต และเปรียบเหมือนบ้านที่ให้กำเนิดแบรนด์ ส่วนกรุงเทพมหานครนั้น คือสยามเมืองยิ้ม และโอบอุ้มวัฒนธรรมการผสมผสานสะท้อนให้เห็นถึงไลฟ์สไตล์อันหลากหลายและทันสมัย
พลังและทัศนคติการคิดเชิงบวกจากมหานครนิวยอร์กที่ถูกถ่ายทอดลงบนกระเป๋าในคอลเลคชั่นฤดูใบไหม้ร่วง 2020 เพื่อส่งผ่านความทันสมัยของสาวยุคใหม่มายังกรุงเทพมหานคร มีดีไซน์โมเดิร์นและเรียบง่ายแผ่งไปด้วยลูกเล่น
ไม่ว่าจะเป็นการฉลุหนังกระเป๋า การปั๊มนูนด้วยโลโก้หรือปั๊มลายหนังจระเข้และหนังงู จะช่วยเติมสีสันให้ดูไม่เรียบจนมากเกินไป มีประดับพู่ ชาร์มโลโก้ ไปจนถึงแคนวาส ให้เข้ากับลุคการแต่งตัวของสาวๆ รวมไปถึงมีวัสดุให้เลือกอีกมากมาย ตั้งแต่หนังวัว หนังพีวี กระเป๋าทรงโท๊ทใบใหญ่คุ้นตา แต่สร้างความประทับใจด้วยวัสดุจากหนัง ที่มีสีสันส่วนใหญ่ของกระเป๋าฤดูกาลนี้ ยังคงความเท่ตามแบบฉบับของสาวนิวยอร์ก คุมโทนด้วยคลาสสิก เช่น ขาว ดำ ครีมงาช้าง และ น้ำตาล แต่ยัง มีสีความสนุกเพิ่มขึ้นมาด้วย เช่น สีแดง สีส้ม และสีเหลืองมัสตาร์ด
นอกจากนี้ยังมีกระเป๋าหลากหลายรูปทรงและขนาดให้คุณสาวๆได้ร่วมสนุกกับการแต่งตัวในแต่ละวันไม่ว่าจะเป็นการทำงานอย่าง บาแก๊ต โฮโบ แซดเดิ้ล หรอ วันสบายๆ อย่าง ทรงบักเก็ต หรือโบ๊ท รวมไปถึงวันพิเศษหรือวันสำคัญ เช่น กระเป๋าแฮนด์เฮลและกระเป๋าครอสบอดี้ บอกได้เลยว่ากระเป๋าฤดูกาลนี้ตอบโจทย์การใช้งานของสาวๆยุคใหม่ในทุกโอกาสได้อย่างลงตัว
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นมหานครนิวยอร์ก หรือกรุงเทพมหานคร ไม่ว่าจะเมืองไหนๆก็ตาม DKNY ก็ยังคงนำเสนอดีไซน์ที่ทันสมัยและตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงยุคใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ข่าวนี้ถูกแชร์ไปแล้ว 81 ครั้ง