“ ฉันต้องการสร้างผลิตภัณฑ์ความงามที่เรียบง่าย ใช้ง่าย ไม่ยึดติดกับกฎเกณฑ์ใดๆ และเข้ากันกับทุกไลฟ์สไตล์ ” นี่คือความตั้งใจหนึ่งเดียวที่มาดมัวแซลชาเนลมีต่อการสร้างผลิตภัณฑ์สกินแคร์ของเธอ ความตั้งใจที่ถูกถ่ายทอดลงไปในกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมากมายที่มาพร้อมกับความหรูหรา แต่ทว่ายังคงไว้ด้วยความเรียบง่ายและวิธีใช้ที่ตรงไปตรงมา และในปีนี้ เราก็ได้เห็นความตั้งใจนี้อีกครั้ง ภายในภาพลักษณ์ของกลุ่มผลิตภัณฑ์ความงามใหม่ที่ร่วมสมัยและ ‘คลาสสิค’ ในเวลาเดียวกันอย่าง N°1 de CHANEL
สองแรงบันดาลใจสู่หนึ่งผลิตภัณฑ์ความงามเหนือกาลเวลา
N°1 de CHANEL เกิดขึ้นจาก 2 แรงบันดาลใจที่ถูกค้นพบและศึกษาโดยบุคลลากรของ CHANEL Research แรงบันดาลใจแรกนั้นคือ ดอกคามิลเลีย พันธุ์บุปผาอันเป็นที่รักของมาดมัวแซลชาเนล ซึ่งเราอาจจะคุ้นตากับกลีบสีขาวดุจหิมะ แต่ดอกคามิลเลียประจำกลุ่มผลิตภัณฑ์ความงามใหม่นี้ มาพร้อมกับสีแดงสดในชื่อ Camellia Japonica ‘The Czar’ (ดอกคามิลเลียจาปอนนิก้า ‘เดอะซาร์’) หนึ่งในดอกไม้ที่มีความคงทนต่อสภาพอากาศอันรุนแรง สามารถชูช่อและเบ่งบานได้อย่างสวยงามแม้ในช่วงฤดูหนาว ดอกไม้ชนิดนี้จึงกลายมาเป็นส่วนผสมสำคัญของผลิตภัณฑ์ความงามใหม่เหล่านี้ กับขุมพลังการบำรุงอันน่าประทับใจ
ส่วนแรงบันดาลใจต่อมานั้น คือไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของคนในปัจจุบัน CHANEL Research พบว่าคนในปัจจุบันมีการใช้ชีวิตที่เร่งรีบมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงยังต้องพบปัจจัยที่ส่งผลเสียต่อผิวหน้าและความงามทั้งภายในและภายนอก ไม่ว่าจะเป็นมลภาวะ, สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย, ความเครียด หรือ การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ กิจวัตรของผลิตภัณฑ์ใน N°1 de CHANEL จึงถูกออกแบบให้ครอบคลุมความกังวลหลักเกี่ยวกับผิวหน้าไม่ว่าจะเป็นริ้วรอย, ความยืดหยุ่น, ความกระจ่างใส และรูขุมขน รวมไปถึงการคืนความมีชีวิตชีวาให้กับสภาวะด้านจิตใจ พร้อมด้วยขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อนและความสะดวกในการใช้งาน เข้าถึงได้กับคนทุกเพศทุกวัย
ฟื้นคืนความมีชีวิตชีวาอีกครั้ง
จุดประสงค์หลักของ N°1 de CHANEL คือการสร้างความมีชีวิตชีวา (Revitalizing) สารสกัดจากกลีบดอกคามิลเลียสีแดง ‘เดอะซาร์’ ที่ผสมอยู่ในทุกผลิตภัณฑ์มีคุณสมบัติหลักในการคืนฟื้นฟูและมอบความอ่อนเยาว์ให้กับผิวลึกถึงระดับเซลล์ โดยจะตรงเข้าชะลอการร่วงโรยของเซลล์ผิวในระยะเริ่มต้นที่เรียกว่า Senescence เป็นกลไกที่เซลล์ผิวหยุดกระบวนการแบ่งเซลล์ และจะส่งผลสู่เซลล์ผิวใกล้เคียงจนเกิดความร่วงโรย สาเหตุหลักของปัญหาผิวและริ้วรอย สารสกัดนี้จะยับยั้งสภาวะอันไม่พึงประสงค์นี้ และฟื้นชีวิตเซลล์ผิวให้กลับมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพอีกครั้ง นอกจากนี้การคืนความมีชีวิตชีวานั้นยังถูถ่ายทอดออกมาในรูปแบบของกลิ่นหอมในผลิตภัณฑ์สเปรย์น้ำหอม (Fragrance Mist) ที่ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำหอมของชาเนล รังสรรค์กลิ่นในโทนฟลอรัลฟรุ๊ตตี้สดใสจากแรงบันดาลใจจากดอกคามิลเลียสีแดง ซึ่งจะคืนความมีชีวิตชีวาให้กับจิตใจภายใน ให้กับมาสดชื่นและแจ่มใสอีกครั้งหนึ่ง
การดูแลความงามแบบองค์รวม
สมาชิกในกลุ่มผลิตภัณฑ์ N°1 de CHANEL นั้นครอบคลุมตั้งแต่ขั้นตอนการทำความสะอาดผิวไปจนถึงกลิ่นหอมที่ช่วยฟื้นฟูจิตใจ เพราะชาเนลเข้าใจถึงการทำงานที่เกี่ยวพันกันของร่างกายทั้งภายในและภายนอก กลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่นี้จึงถูกออกแบบมาให้เป็นกิจวัตรที่ดูแลความงามของคุณแบบครบทุกแง่มุม เริ่มตั้งแต่การดูแลผิว ไม่ว่าจะเป็น Powder-To-Foam Cleanser, เซรั่ม, อายครีม, ครีมสำหรับผิวหน้า หรือจะเป็น สเปรย์ Serum-In-Mist ต่อด้วยผลิตภัณฑ์เมกอัพทั้งรองพื้นเนื้อสัมผัสกำมะหยี่ ให้ฟินนิชผิวแบบที่เป็นธรรมชาติและบาล์มสำหรับแก้มและปากใน 6 เฉดสีสดใสแมชต์เข้าได้กับทุกลุค ก่อนจะปิดท้ายด้วยสเปรย์น้ำหอมที่ถูกออกแบบมาให้ใช้เดี่ยวๆ หรือใช้ร่วมกับน้ำหอมกลิ่นโปรดของคุณก็ได้เช่นกัน เรียกได้ว่าครบสมบูรณ์ในทุกแง่มุมความงามที่คนเราต้องการ
จากความยั่งยืนของความงาม สู่ความยั่งยืนของธรรมชาติ
อีกหนึ่งความโดดเด่นของกลุ่มผลิตภัณฑ์ N°1 de CHANEL นั้น คือความคิดของความยั่งยืน (Sustainability) โดยเฉพาะต่อธรรมชาติ เริ่มตั้งแต่การเก็บเกี่ยวและวิจัยวัตถุดิบอย่างดอกคามิลเลียที่ชาเนลใส่ใจตั้งแต่การเพาะต้นคามิลเลีย ณ Open Sky Lab ที่ตั้งอยู่ที่หมูบ้านโกฌักค์ ประเทศฝรั่งเศส โดยยึดวิถีการเกษตรที่เอื้อให้มีระบบนิเวศทางธรรมชาติที่สมบูรณ์ที่สุด พร้อมทั้งการเลือกใช้ส่วนผสมที่มีเปอร์เซ็นต์ความเป็นธรรมชาติอยู่สูง มาจนถึงเรื่องของบรรจุภัณฑ์ที่ผสมผสานความรักษ์โลกมากยิ่งขึ้น เราจะไม่ได้เห็นพลาสติกห่อกล่องผลิตภัณฑ์หรือคู่มือกระดาษด้านในก็จะถูกเปลี่ยนเป็น QR Code ในทางกลับกันเราได้เห็นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบรีฟิล และวัสดุที่สามารถนำไปรีไซเคิลต่อไป แต่ถึงอย่างไรก็ดี ชาเนลก็ยังคงความมีระดับเอาไว้ในดีไซน์และเฉดสี เก็บคาแรคเตอร์ของแบรนด์และความรับผิดชอบต่อโลกใบนี้ไว้ได้ในที่เดียวกัน
ประสบการณ์การดูแลความงามครั้งใหม่ของกลุ่มผลิตภัณฑ์ N°1 de CHANEL พร้อมแล้วที่จะให้คุณได้สัมผัสและเป็นเจ้าของ ที่เคาน์เตอร์ CHANEL ทุกสาขา รวมไปถึงช่องทางออนไลน์ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
-ขอขอบคุณข้อมูลจาก : lofficielthailand.com , chanel.com
ข่าวนี้ถูกแชร์ไปแล้ว 866 ครั้ง